เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมา แต่ก่อนตัดสินใจซื้อมีอะไรบ้างที่ต้องรู้

เรื่องของ Eco-Friendly นับเป็นเทรนด์ของโลกไปแล้วในตอนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็มาจากรถยนต์ ทำให้ตอนนี้เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ากำลังถูกพูดถึงอย่างมาก หลายคนเริ่มสนใจรถยนต์ไฟฟ้า อยากจะลงทุนซื้อบ้าง แต่ก่อนอื่นเลยก็ต้องมีหลายสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อรวมไปถึงเรื่องของประกันรถยนต์ไฟฟ้าด้วย ว่าจะครอบคลุมแค่ไหน อย่ารอช้าไปติดตามกันเลย

รถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจอย่างไรนะ

แน่นอนว่าทุกสิ่งถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมาก็ต้องมีเหตุผลและข้อดี รถยนต์ไฟฟ้าเองก็เป็นเช่นนั้นไม่ต่างกัน จุดเด่นข้อดีของรถยนต์แบบนี้ก็คือ

  1. เงียบสนิทไม่มีเสียงเครื่องรบกวน : รถยนต์ไฟฟ้านั้นใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ไม่ได้ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง จึงไม่ต้องมีการสันดาป เมื่อไม่มีการสันดาปของเครื่องยนต์ เสียงจึงเบาและเงียบ แม้จะเร่งเครื่องเสียงก็ยังไม่ดังเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันปกติด้วย
  2. ประหยัดมากขึ้น : ช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้หลายอย่าง ทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าบำรุงดูแลรักษารถ รวมถึงเรื่องของประกัน รถยนต์ที่ในอนาคตเชื่อว่าอาจจะถูกลงกว่าเดิมด้วย เมื่อรถแบบนี้มีใช้กันทั่วไป
  3. ดีต่อสิ่งแวดล้อม : เพราะรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นจากแนวคิดรักษ์โลก จึงนับเป็นนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่ง เพราะไม่มีการปล่อยมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อมและอากาศ
  4. เติมพลังงานที่บ้านก็ได้ : รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จแบตเตอรี่เติมพลังไฟฟ้ากับระบบไฟฟ้าภายในบ้านได้ ซึ่งเพิ่มความสะดวกทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปปั๊มน้ำมันอีกต่อไป อย่างไรก็ดีหากต้องการแวะชาร์จไฟระหว่างเดินทางไกล ในอนาคตก็จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าขับไปแล้วแบตเตอรี่หมดจะทำอย่างไร อีกหน่อยมีจุดชาร์จเพิ่มขึ้นหลายจุดแน่นอน

ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภทกันแล้ว

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการผลิตออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาดนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท

  • Hybrid Electric Vehicle หรือ HEV: รถแบบนี้ก็คือรถยนต์แบบไฮบริดนั่นเอง ซึ่งคนไทยเราน่าจะเริ่มคุ้นเคยและรู้จักกันดีอยู่พอสมควรแล้ว เพราะมีวางจำหน่ายมาหลายปี รถแบบนี้จะใช้ไฟฟ้าสลับกับเครื่องยนต์แบบเดิม
  • Mild Hybrid Electric Vehicle หรือ MHEV: ประเภทนี้ก็จะคล้าย ๆ กับประเภทแรก แต่จะยังคงสภาพการเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบเดิมไว้เยอะกว่า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานน้อยกว่าแบบแรก
  • Plug-in Hybrid Electric Vehicle หรือ PHEV: ประเภทนี้ระบบการทำงานและสมรรถนะจะขยับขึ้นมาใกล้เคียงคำว่ารถยนต์ไฟฟ้าจริง ๆ คือมีการขับเคลื่อนรถด้วยไฟฟ้ามากขึ้นและวิ่งในระยะทางที่ไกลกว่ารถไฮบริด
  • Battery Electric Vehicle หรือ BEV: ประเภทนี้คือรถยนต์ไฟฟ้าตัวจริงเสียงจริง ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ใช้เครื่องยนต์เลย

ประกันรถยนต์ตอนนี้ครอบคลุมรถยนต์ไฟฟ้าแล้วหรือยัง

หากคุณจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ก็สามารถทำประกันได้ตามปกติไม่มีปัญหา แต่เนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในไทยยังเล็ก มีใช้กันไม่แพร่หลาย เรียกว่าแทบจะนับคันกันได้ ณ ตอนนี้ทิศทางของบริษัทประกันต่าง ๆ จึงยังไม่แน่ชัดในเรื่องความคุ้มครองและการคิดอัตราเบี้ยประกันต่าง ๆ ความคุ้มครองในเรื่องชีวิตก็คงปกติเหมือนรถยนต์ทั่วไป แต่เป็นกรณีของตัวรถก็ต้องดูเงื่อนไขและเจรจาเรื่องความคุ้มครองกับบริษัทประกันเป็นกรณีไป

ในส่วนของราคาค่าเบี้ย ถ้าทำประกันรถยนต์สำหรับรถยนต์แบบนี้ในระยะนี้ ค่าเบี้ยจะยังคงสูงอยู่ เพราะอะไหล่รถหายากและราคาแพง แต่ต่อไปเมื่อรถแบบนี้ได้รับความนิยม มีใช้กันทั่วไปเหมือนรถที่ใช้น้ำมันปกติ ค่าเบี้ยจะถูกลงมาก และอาจจะถูกลงกว่ารถที่ใช้น้ำมันอีกด้วย ต้องบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ใครคิดจะซื้อเร็ว ๆ นี้ก็ต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้ รวมไปถึงปัจจัยเรื่องประกันรถยนต์ให้ดีก่อนด้วย จะได้ขับรถได้อย่างมีความสุขไม่ต้องกังวลใจในเรื่องอื่น ๆ นั่นเอง

Back To Top