แนวโน้มของบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน

บุหรี่ไฟฟ้า

ทางเลือกของสิงห์อมควันกับเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้น มีตัวเลือกที่เพิ่มความสะดวกให้กับพวกเค้าอย่าง “บุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในไทยและต่างประเทศเลยหล่ะครับ ซึ่งวันนี้เราอยากจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “แนวโน้มของบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน” ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ยังผิดกฎหมายอยู่หรือไม่? เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันดีกว่าครับ

ทำความรู้จักกับอุปกรณ์อย่าง บุหรี่ไฟฟ้า

“บุหรี่ไฟฟ้า” คือ อุปกรณ์สูบชนิดหนึ่งที่เหมือนกับบุหรี่ธรรมดาเพียงแต่ใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่างๆ โดยปราศจากควันที่เกิดขึ้นกับบุหรี่ปกติทั่วไป ซึ่งจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ แบตเตอรี่สำหรับทำให้เกิดไอและความร้อน (Atomizer) และน้ำยาที่มีกลิ่นปรุงแต่งต่างๆ ที่จะประกอบไปด้วยสารเคมีมากมาย แต่ส่วนประกอบหลักก็คงจะหนีไม่พ้น “นิโคติน” นั้นเองครับ

แนวโน้มการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน

ต้องขอบอกเลยว่าการว่าของบุหรี่ไฟฟ้านั้น ทำให้ยอดขายของบุหรี่รายใหญ่อื่นๆ ยอดขายตกไปบ้างเช่นกันครับ เพราะด้วยบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นอุปกกรณ์ที่สามารถเลือกน้ำยาได้หลากหลายรถชาติเลยหล่ะ จึงทำให้แนวโน้ใของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า อีกทั้งในบางข้อมูลยังระบุไว้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ปกติทั่วไปอีกด้วยครับ

รู้จักกับ ประวัติความเป็นมาของบุหรี่ไฟฟ้ากันสักหน่อย

บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นแรกได้รับการพัฒนาในอเมริกา ในปี 1963 เฮอร์เบิร์ต เอ. กิลเบิร์ตได้ยื่นขอสิทธิบัตรสำหรับ “บุหรี่ไร้ควันแบบไม่ใช้ยาสูบ” ของเขาและได้รับสิทธิบัตรในปี 1965 สิ่งประดิษฐ์ของกิลเบิร์ตไม่มีนิโคติน แต่เป็นการสร้างไอระเหยปรุงแต่งรสชาติที่ตั้งใจให้มาทดแทนควันบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้ากับการแพทย์เพิ่งจะเริ่มเตือนถึงอันตรายของการสูบบุหรี่ในปี 1963 ณ เวลานั้น ผู้หญิงอเมริกันประมาณ 44% และผู้ชายอเมริกันกว่าครึ่งสูบบุหรี่ ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงไม่มีใครมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่านี้ อีกทั้งตอนนั้นเขายังพบความท้าทายทางเทคนิคบางอย่างด้วย ต้นแบบของกิลเบิร์ตนั้นใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่เทคโนโลยีแบตเตอรี่ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 นั้นยังล้าหลังอยู่มากเมื่อเทียบกับตอนนี้ แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้นั้น มีราคาแพงและมักจะหนัก แบตเตอรี่แบบธรรมดาก็ไม่ได้ราคาถูกและมีการจัดเก็บพลังงานที่จำกัด บุหรี่ไฟฟ้าตัวแรกเกิดขึ้นเร็วไปทั้งในแง่ของการยอมรับในสังคมและในแง่ของเทคโนโลยี และหลังจากที่กิลเบิร์ตได้รับสิทธิบัตร แนวคิดนี้ ก็จมหายไปในความมืดเป็นเวลาเกือบ 40 ปี การค้นพบครั้งสำคัญ อย่างไรก็ตามในปี 2001 บุหรี่ไฟฟ้าได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ฮอน ลิก ซึ่งเป็นเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีน เขาทำงานในห้องปฏิบัติการวิจัยทางการเกษตร พ่อของเขาเพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดและฮอนเองก็สูบบุหรี่จัดมาก ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะเลิกบุหรี่ เขาได้ลองใช้แผ่นแปะนิโคตินเหมือนกับคนอื่น ๆ และเช่นเดียวกับหลาย ๆ คน คือเขาพบว่ามันใช้ไม่ได้ผลดีเท่าไรนัก โชคดีที่เขามีทักษะและทรัพยากรที่จะลองทำอย่างอื่นดูบ้าง ฮอนเริ่มทดลองระบบการระเหย โดยทดสอบกับของเหลวหลายชนิดเพื่อค้นหาสิ่งที่สามารถจำลองความรู้สึกของการสูดดมควันบุหรี่ และสุดท้ายจึงใช้โพรพิลีนไกลคอล ซึ่งเป็นวัตถุเจือปนอาหารทั่วไป สารนี้ไม่เป็นพิษ สร้างไอได้น่าพอใจและเป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับนิโคตินและสารปรุงแต่งรสชาติจนเกิดมาเป็น “บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่” ในปัจจุบัน

ราคาของบุหรี่ปกติกับบุหรี่ไฟฟ้าแตกต่างกันมากหรือไม่?

ด้วยต้นทุนของบุหรี่ปกตินั้นถูกกว่าบุหรี่ไฟฟ้าที่ต้องมีทั้งตัว พอร์ทและน้ำยา ซึ่งมีราคาสูงกว่า แต่หากเปรียบเทียบในระยะยาวแล้วนั้น ถ้าคุณดูแลส่วนของพอร์ทดี คุณก็จะเสียแค่ค่าน้ำยาเป็นหลักจึงทำให้ดูประหยัดกว่านั้นเองค รับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “แนวโน้มของบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในข้างต้นนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

Back To Top